มารู้จักทุกมุมของ “ฝ่ายบัญชีในบริษัท" แบบเข้าใจง่าย

ฝ่ายบัญชี ในองค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆ จะมีการแบ่ง "ฝ่ายย่อย" หรือ "หน้าที่เฉพาะ" ตามความรับผิดชอบ เพื่อให้การจัดการทางการเงินมีความถูกต้อง โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไป ฝ่ายบัญชี (Accounting Department) จะมีฝ่ายย่อยดังนี้:


1. บัญชีลูกหนี้ (Accounts Receivable - AR)

  • ออกใบแจ้งหนี้ (Invoice) และใบเสร็จ

  • ติดตามทวงหนี้จากลูกค้า

  • บันทึกรายการเงินที่ลูกค้าชำระ

  • กระทบยอดรายได้จากการขาย


2. บัญชีเจ้าหนี้ (Accounts Payable - AP)

  • ตรวจสอบและบันทึกใบแจ้งหนี้จากผู้ขาย

  • เตรียมเอกสารการจ่ายเงิน (Payment Voucher)

  • ดูแลการชำระเงินให้ตรงเวลา

  • กระทบยอดเจ้าหนี้คงค้าง


3. บัญชีทั่วไป (General Ledger - GL)

  • ลงบัญชีรายการต่าง ๆ เข้าสมุดบัญชีแยกประเภท

  • ทำงบทดลอง (Trial Balance)

  • ปรับปรุงรายการบัญชีปลายงวด

  • จัดทำงบการเงิน (งบดุล, งบกำไรขาดทุน ฯลฯ)


4. บัญชีต้นทุน (Cost Accounting)

  • คำนวณต้นทุนสินค้า/บริการ

  • วิเคราะห์ต้นทุนการผลิต (ในโรงงาน/บริษัทผลิต)

  • เปรียบเทียบต้นทุนจริงกับต้นทุนมาตรฐาน

  • ช่วยผู้บริหารในการวางแผนและควบคุมต้นทุน


5. บัญชีภาษี (Tax Accounting)

  • คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT), ภาษีหัก ณ ที่จ่าย

  • ยื่นแบบภาษีต่าง ๆ เช่น ภ.พ.30, ภ.ง.ด.3, ภ.ง.ด.50

  • เตรียมเอกสารและจัดการภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย

  • ประสานงานกับกรมสรรพากรในกรณีตรวจสอบ


6. บัญชีการเงิน (Financial Accounting)

  • ดูแลรายรับรายจ่ายขององค์กร

  • จัดทำรายงานทางการเงินเพื่อเสนอผู้บริหาร

  • วิเคราะห์สภาพคล่องและกระแสเงินสด

  • วางแผนทางการเงินร่วมกับฝ่ายการเงิน


7. ตรวจสอบภายใน (Internal Audit) (บางที่อยู่ใต้ฝ่ายบัญชี บางแห่งแยกเป็นหน่วยงานอิสระ)

  • ตรวจสอบความถูกต้องของระบบบัญชี

  • ประเมินการควบคุมภายใน (Internal Control)

  • ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบและนโยบาย


8. ฝ่ายบัญชีบริหาร (Management Accounting) (เฉพาะองค์กรใหญ่)

  • วิเคราะห์ต้นทุน-กำไรของแต่ละหน่วยธุรกิจ

  • จัดทำงบประมาณ (Budgeting) และรายงานเปรียบเทียบ

  • ช่วยวางแผนและตัดสินใจเชิงกลยุทธ์


ฝ่ายอื่นที่ประสานงานกับฝ่ายบัญชี

  • ฝ่ายการเงิน (Finance): จัดหาเงินทุน บริหารเงินสด

  • ฝ่ายจัดซื้อ (Purchasing): ส่งข้อมูลค่าใช้จ่ายให้บันทึก

  • ฝ่ายคลังสินค้า/โลจิสติกส์: ส่งข้อมูลสินค้าเข้า-ออก


สำหรับ คนเริ่มต้นสายบัญชี (เพิ่งเรียนจบ หรือเปลี่ยนสายงาน) — ฝ่ายที่ “เหมาะสมที่สุดในการเริ่มต้น” คือฝ่ายที่ทำให้คุณเข้าใจ พื้นฐานการทำบัญชีในชีวิตจริง โดยเริ่มจากการจับเอกสาร-ลงบัญชี-ดูระบบบัญชีจริง ซึ่งมีอยู่ 2–3 ฝ่ายที่แนะนำเป็นพิเศษ:


1. บัญชีเจ้าหนี้ (Accounts Payable – AP)

🎯 เหมาะกับ: ผู้เริ่มต้นที่ต้องการเรียนรู้เอกสารการจ่ายเงิน

🧾 หน้าที่หลัก:

  • ตรวจสอบใบแจ้งหนี้จากผู้ขาย

  • บันทึกรายการค่าใช้จ่าย

  • เตรียมเอกสารการจ่ายเช็ค โอนเงิน

  • ฝึกความละเอียดรอบคอบสูง

ข้อดี:

  • ได้เห็นเอกสารทางการเงินจริงหลากหลาย

  • เข้าใจระบบการควบคุมภายในเบื้องต้น

  • ได้ฝึกความรับผิดชอบและการทำงานตามกำหนดเวลา


2. บัญชีลูกหนี้ (Accounts Receivable – AR)

🎯 เหมาะกับ: ผู้เริ่มต้นที่อยากเข้าใจรายได้ของกิจการ

📋 หน้าที่หลัก:

  • ออกใบกำกับภาษี ใบแจ้งหนี้

  • บันทึกรายการรับเงิน

  • ติดตามลูกหนี้/ค้างชำระ

ข้อดี:

  • ได้ฝึกการลงบัญชีฝั่งรายรับ

  • เข้าใจโครงสร้างรายได้และภาษีขาย

  • ได้สื่อสารกับฝ่ายขาย/ลูกค้า


3. บัญชีทั่วไป (General Ledger – GL) (สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานบ้างแล้ว)

🎯 เหมาะกับ: ผู้เริ่มต้นที่มีพื้นฐานบัญชี ต้องการเข้าใจการปิดงบ

📚 หน้าที่หลัก:

  • สรุปและบันทึกรายการจาก AR/AP เข้าบัญชีใหญ่

  • ทำงบทดลอง ปรับปรุงบัญชีปลายงวด

  • เริ่มฝึกการวิเคราะห์รายการบัญชี

ข้อดี:

  • ได้ต่อยอดความเข้าใจงบการเงิน

  • เตรียมพร้อมสำหรับสายผู้สอบบัญชีในอนาคต


🔰 สรุปแนะนำสำหรับคนเพิ่งเริ่มต้น (เรียงตามความง่าย)

ลำดับฝ่ายบัญชีเหมาะกับ
1บัญชีเจ้าหนี้ (AP)เริ่มจากเอกสาร ใช้งานจริง เห็นระบบงานชัด
2บัญชีลูกหนี้ (AR)เข้าใจรายได้ ฝึกออกบิล และภาษีขาย
3บัญชีทั่วไป (GL)สำหรับคนเริ่มคล่อง อยากปิดบัญชีเป็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การวิเคราะห์กลยุทธ์ กรณีศึกษา บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ประเภทของการตรวจสอบ Types of Audits

ผู้สอบบัญชีมีกี่แบบ? ผู้สอบภายนอก ผู้สอบภายในคือใคร